วิตามินเค จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งมีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือด อาหารเสริมธาตุเหล็ก นอกจากนี้วิตามินเคยังมีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อกระดูกให้เป็นปกติ เรียกว่าเป็นวิตามินที่ให้ประโยชน์ครอบคลุมทั้งเรื่องเลือดและกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากต่อร่างกาย โว้กบิวตี้รวม 7 อาหารที่มีวิตามินเคสูง สามารถหารับประทานง่าย อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์นานาประการหากกล่าวถึงวิตามินเค หลายคนอาจจะนึกถึงวิตามินชนิดเดียว แต่จริงๆ
แล้ววิตามินเคเป็นสารประกอบหลายชนิดที่สามารถแยกย่อยออกได้อีก เช่น วิตามิน K1 และวิตามิน K2วิตามิน K1 หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า ฟิลโลควิโนน (Phylloquinone) ถือเป็นส่วนประกอบของวิตามินเคส่วนใหญ่ที่พบในอาหารและพบมากในอาหารจากพืช วิตามิน K2 คือกลุ่มของสารประกอบที่เรียกว่าเมนาควิโนน (Menaquinone) สารชนิดนี้ส่วนใหญ่พบในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์และอาหารหมักดอง แต่แบคทีเรียในลำไส้ของเราก็สามารถสร้างเมนาควิโนนได้เช่นกัน ซึ่งด้วยเหตุนี้วิตามินเคจึงมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของลำไส้ของเราค่ะ
อะโวคาโด
วิตามินเค อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย มีไขมันดีสูง ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ อาหารเสริมธาตุเหล็ก ควบคุมและลดระดับคอเลสเตอรอล ลดไตรกลีเซอไรด์ ลดไขมันในเส้นเลือด และมีวิตามินเค ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟันอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อะโวคาโดมีไขมันสูง แต่ไขมันเหล่านี้เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ไขมันในอะโวคาโดนั้นไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อะโวคาโดยังเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โพแทสเซียม และโฟเลต อะโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย อะโวคาโดยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน อะโวคาโดยังช่วยบำรุงผิวและเส้นผม อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่โดยเฉพาะแบล็กเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ ซึ่งเป็นเบอร์รี่สองชนิดที่ให้ปริมาณของวิตามินเคในระดับที่เท่ากัน คือ 12% ต่อปริมาณร้อยละที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ช่วยให้สุขภาพกระดูกดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน รวมถึงป้องกันไม่ให้แคลเซียมสะสมในหลอดเลือดแดง อาจทำให้เกิดคราบพลัค (plaque) ซึ่งทำให้หลอดเลือดอุดตันได้
ลูกพรุน
ลูกพรุนเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีผลดีต่อสุขภาพกระดูกและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้ แถมยังมีประโยชน์มากมายต่อกระดูก เพราะช่วยลดความเสี่ยงภาวะกระดูกทรุดโทรม เช่น โรคกระดูกพรุนได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่าอาจมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมกระดูกที่สูญเสียไปด้วย อาหารที่มีไฟเบอร์สูง คือ
ผักใบเขียว
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี บร็อกโคลี และผักกาด เป็นต้น มีปริมาณวิตามินเคสูง จะช่วยการสร้างออสทิโอแคลซิน (Osteocalcin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูก ทั้งยังช่วยป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสารโปรธรอมบิน (Prothrombin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างขึ้นจากตับ ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้นนั่นเอง
เนื้อสัตว์
นอกจากเนื้อสัตว์จะมีโปรตีนสูงที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกายแล้ว ยังมีวิตามินที่ช่วยเรื่องการแข็งตัวของเลือด ลดอาการฟกช้ำ เวลาบาดเจ็บหรือมีเลือดออก เลือดจะก่อตัวกันเป็นก้อนแล้วช่วยห้ามไม่ให้เลือดออก ลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดที่เป็นอันตรายต่อโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการสร้างความแข็งแรงให้กระดูก ลดความเสี่ยงของกระดูกเปราะและแตกหักได้
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยไขมันดีสูง ช่วยป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด ควบคุมคอเรสเตอรอล ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ พร้อมป้องกันกระดูกเปราะบาง ปรับสภาพระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นระบบมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อระบบน้ำดีอีกด้วย เรียกว่าเป็นหนึ่งในน้ำมันที่สามรถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย
มะเขือเทศ
มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามิน เค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ พร้อมช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟันได้ อาหารที่มีไฟเบอร์สูง คือ
นอกจากจะเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกแล้ว มะเขือเทศยังมีประโยชน์อีกมากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามิน เค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก มะเขือเทศขนาดกลางมีวิตามินซีในปริมาณที่ดี โดยครึ่งหนึ่งของเกรปฟรุตทั้งผล และมะเขือเทศหนึ่งลูกมีวิตามินเอถึง 1/3 ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน วิตามินเค
บทความที่เกี่ยวข้อง